เรื่อง การบัญชีเกี่ยวกับผู้ประกอบอาชีพอิสระ
แนวคิด
ความหมายของเงินได้พึงประเมินที่จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 40(6) ได้แก่ เงินได้จากวิชาชีพอิสระ คือวิชากฎหมาย การประกอบโรคศิลป์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบัญชี ประณีตศิลปกรรม หรือวิชาชีพอิสระอื่น ซึ่งจะได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดไว้
กรณีการประกอบโรคศิลป์ ถ้าเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาล เงินเดือนที่ได้รับถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) จะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40 (6) ต่อเมื่อแพทย์ผู้นั้น ไปเปิดคลินิกรักษาโรค ดังนั้นผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพส่วนตัวเป็นเจ้าของกิจการเอง มิได้เป็นลูกจ้างผู้ใด
ผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องมีการจัดทำบัญชีเช่นเดียวกับธุรกิจเจ้าของคนเดียวอื่น ๆ เพื่อจะได้ทราบผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการ
สาระการเรียนรู้
1. ความหมายของผู้ประกอบอาชีพอิสระ
2. วัตถุประสงค์ในการทำบัญชีและประเภทบัญชีของผู้ประกอบอาชีพอิสระ
3. สมุดบัญชีที่ใช้และการบันทึกบัญชี
4. การบันทึกรายการปรับปรุง
5. งบการเงิน
ความหมายของผู้ประกอบอาชีพอิสระ
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ คือ ผู้ที่ใช้ความรู้ ความสามารถและทักษะในสาขาเฉพาะวิชาที่ศึกษามา ประกอบอาชีพอิสระหรืออาชีพส่วนตัว เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ ผู้ทำบัญชี ทนายความ เป็นต้น
แพทย์/ทันตแพทย์
เมื่อแพทย์หรือทันตแพทย์ต้องการที่จะประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเปิดคลินิกจะต้องปฏิบัติดังนี้
1. ขอขึ้นทะเบียนที่ กองการประกอบโรคศิลปะ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธาณสุข
2. ปฏิบัติตามกฎกระทรวง 9 ฉบับ
3. การติดประกาศโฆษณาหน้าคลินิกหรือเอกสารแจกจ่าย ต้องไม่มีลักษณะโอ้อวด ชักชวน
4. การติดประกาศสิทธิผู้ป่วย อัตราค่ารักษา ใบอนุญาตประกอบกิจการ ใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลในคลินิก
5. การายงานข้อมูลการให้บริการ
ทนายความ
คุณสมบัติของผู้ที่เป็นทนายความ
1. ต้องมีสัญชาติไทย
2. ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาหรืออนุปริญญาทางนิติศาสตร์จากถาบันที่สภาทนายความอนุมัติ
3. ต้องไม่มีเป็นผู้ความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่อมในศิลธรรมอันดี
4. ต้องไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษา
5. ต้องไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจสังคม
ผู้ทำบัญชี/ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
การประกอบอาชีพอิสระรับทำบัญชี หรือสอบบัญชีนั้นจะต้องปฏิบัติ ดังนี้
1. ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
2. แจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชี/สอบบัญชี
วัตถุประสงค์ในการทำบัญชีและประเภทบัญชีของผู้ระกอบอาชีพอิสระ
วัตถุประสงค์ในการทำบัญชีและประเภทบัญชีของผู้ระกอบอาชีพอิสระ ดังนี้
1. เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิง
2. เพื่อให้ทราบผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน
3. เพื่อป้องกันการทุจริต
4. เพื่อเสนอต่อบุคคลภายนอก เช่น ธนาคาร
5. เพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ประกอบการในการยื่นภาษีประจำปี
สมุดบัญชีที่ใช้และการบันทึกบัญชี
สมุดบัญชีที่ใช้
1. สมุดบันทึกรายการขั้นต้น นิยมใช้สมุดเงินสด 2 ช่องหรือสมุดรายวันเงินสด
2. สมุดบัญชีแยกปะเภท ใช้สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป
วัตถุประสงค์ในการทำบัญชีและประเภทบัญชีของผู้ระกอบอาชีพอิสระ
วัตถุประสงค์ในการทำบัญชีและประเภทบัญชีของผู้ระกอบอาชีพอิสระ ดังนี้
6. เพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิง
7. เพื่อให้ทราบผลการดำเนินงานและฐานะการเงิน
8. เพื่อป้องกันการทุจริต
9. เพื่อเสนอต่อบุคคลภายนอก เช่น ธนาคาร
10. เพื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ประกอบการในการยื่นภาษีประจำปี
สมุดบัญชีที่ใช้และการบันทึกบัญชี
สมุดบัญชีที่ใช้
3. สมุดบันทึกรายการขั้นต้น นิยมใช้สมุดเงินสด 2 ช่องหรือสมุดรายวันเงินสด
4. สมุดบัญชีแยกปะเภท ใช้สมุดบัญชีแยกประเภททั่วไป
การบันทึกบัญชี
การบันทึกบัญชีของผู้ประกอบอาชีพอิสระนิยมใช้ระบบเกณฑ์เงินสด คือ จะบันทึกรายได้ต่อ
เมื่อได้รับเงินสดเท่านั้น ไม่นิยมบันทึกบัญชีลูกหนี้ ดังนั้นจึงต้องจัดทะเบียนเพื่อจดบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับกับรายได้ที่ได้รับเป็นเงินสดและที่ยังไม่ได้รับ เช่น กิจการทนายความต้องจัดทำทะเบียนลูกความหรือแพทย์/ทันตแพทย์ ต้องจัดทำทะเบียนคนไข้ เป็นต้น
การบันทึกรายการปรับปรุง
การบันทึกรายการปรับปรุงของผู้ประกอบอาชีพอิสระ จะคล้าย ๆ กับกิจการค้าทั่วไป เช่น ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ค่าเสื่อมราคาของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ แต่ไม่นิยมปรับปรุงรายได้ค้างรับ
(รายได้ที่ยังไม่ได้รับมาเป็นเงินสด)
งบการเงิน
งบการเงินของผู้ประกอบอาชีพอิสระ แบ่งออกเป็น 2 งบ คือ
1. งบรายได้และค่าใช้จ่าย คืองบที่แสดงผลการดำเนินงาน ประกอบด้วยรายได้และค่าใช้จ่าย
- ถ้ารายได้สูงกว่าค่าใช้จ่าย เรียกว่า รายได้สุทธิ
- ถ้าค่าใช้จ่ายสูงรายได้ เรียกว่า ค่าใช้จ่ายสุทธิ
2. งบดุล คือ งบที่แสดงฐานะทางการเงิน ประกอบด้วย สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น